“เพิ่มทักษะชีวิต พัฒนาตัวตนเยาวชน ลดพฤติกรรมเสี่ยง”

กิจกรรมยามว่างของเด็กและเยาวชนในช่วงวันหยุด ที่ทำผู้ใหญ่หลายคนรู้สึกหนักใจและอดเป็นห่วงลูกหลานไม่ได้คือ การเข้าร้านเกมส์  เล่นเกมส์รุนแรง  เล่นมือถือเข้า social media  ดูคลิป ดูหนังที่ไม่เหมาะสม หรือรวมกลุ่มมั่วสุม ซึ่งนับเป็นจุดเริ่มต้นของการมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม   และการใช้เวลาว่างที่ไม่สร้างสรรค์เหล่านี้ยังทำให้เด็กไม่ได้รับการส่งเสริมพัฒนาที่เหมาะสมตามวัยและพัฒนาการ   ขาดการพัฒนาตนเอง  ขาดการวางเป้าหมายในชีวิต

ด้วยเหตุนี้ มูลนิธิศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็ก จึงได้ร่วมกับแกนนำชุมชนทหารรักษาวัง กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์  (ร.1 พัน 3 รอ.)   เขตดุสิต  กรุงเทพมหานคร จัดกิจกรรมค่ายพัฒนาทักษะชีวิตให้กับเด็ก  เพื่อให้เด็กที่เป็นลูกหลานกำลังพล ร.1 พัน. 3 รอ.มีโอกาสได้ทำกิจกรรมที่สร้างสรรค์ และช่วยให้เด็กมีมุมมองในการทำกิจกรรมอื่นๆ นอกเหนือจากกิจกรรมที่ทำอยู่ เพื่อลดปัญหาพฤติกรรมเสี่ยงของเด็ก  รวมถึงการส่งเสริมศักยภาพคณะทำงานในชุมชนทหารรักษาวังให้สามารถดำเนินงานคุ้มครองเด็กในชุมชนให้ปลอดภัย  โดยการสนับสนุนของคิวบีอีประกันภัย ประเทศไทย (QBE Insurance)

โดยกิจกรรมค่ายพัฒนาทักษะชีวิตให้กับเด็กในครั้งนี้เป็นการเดินทางไปเรียนรู้ที่กลุ่มรักษ์เขาชะเมา  ตำบลหนองควายกิน อำเภอแกลง จังหวัดระยอง  เพื่อให้เด็กๆเรียนรู้การใช้ชีวิตแบบพึ่งพาตนเอง  การสร้างสรรค์งานศิลปะและของใช้จากวัสดุธรรมชาติ และเรียนรู้วิถีชุมชน วิถีธรรมชาติ   ซึ่งกิจกรรมได้ถูกออกแบบไว้อย่างหลากหลาย เช่น การทำผ้ามัดย้อมจากวัสดุธรรมชาติ  การเพ้นท์กระถางต้นไม้ การทำสบู่ผสมผลไม้ กิจกรรมนักสืบชายหาด และกิจกรรมทำขนมไทย  ทุกกิจกรรมล้วนเปิดโอกาสให้เด็กมีส่วนร่วมในทุกขั้นตอน ลงมือทำด้วยตนเอง  กิจกรรมเหล่านี้ทำให้เด็กๆ เกิดความภาคภูมิใจในตนเอง  ค้นพบศักยภาพของตนเอง รู้ว่าตนเองชื่นชอบและมีความสามารถด้านใด  และสิ่งสำคัญคือ เด็กๆมีแรงบันดาลใจที่จะกลับไปค้นหาสิ่งดีๆที่มีอยู่ในชุมชนของตนเอง  เพราะในชุมชนที่เด็กๆอาศัยอยู่นั้นต่างก็มีภูมิปัญญาและผู้ที่มีความรู้ความสามารถในด้านต่างๆ ที่แตกต่างกัน

ร้อยเอกสุชาติ  พึ่งวงศ์  นายทหารฝ่ายกิจการพลเรือน กองพันทหารราบที่ 3 สะท้อนถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับเด็กที่มาเข้าค่ายว่า   “หน่วยทหารเป็นหน่วยปิด ผู้ปกครองไม่มีเวลาที่จะดูแลลูก แม่ก็ไปทำงาน พ่อก็ไปทำงานเข้าเวรยาม บุตรอยู่บ้าน โอกาสที่จะเล่นกับเพื่อนก็ไม่ค่อยมี  กิจกรรมเข้าค่ายในครั้งนี้ได้พัฒนาบุตรหลานของกำลังพลชุมชนทหารรักษาวังอย่างมาก เพราะว่าเด็กจะใช้เวลาว่างเรื่องการเล่น ไปในทางที่ทำให้ผู้ปกครองลำบากใจ เช่น เล่นเกมมือถือ ออนไลน์ ชุมชนทหารรักษาวังรายล้อมด้วยชุมชนแออัด สิ่งรอบข้างเป็นสิ่งเร้าที่เข้ามา เด็กก็ง่ายต่อการตอบสนอง การจัดกิจกรรมค่ายพัฒนาทักษะชีวิตเขาจะเกิดแรงบันดาลใจ  เห็นว่าตนเองมีทักษะอะไรบ้าง เราเห็นการเปลี่ยนแปลงเยอะมาก จากชุมชนเมืองมาสู่ชุมชนชนบท ไม่คิดว่าเด็กจะตอบสนองได้ดี เด็กไม่ได้เจ็บป่วย ปรับตัวเข้ากับสภาพได้ดี เห็นความร่วมมือ เด็กบางคนไม่เคยทำงานบ้าน ไม่เคยล้างแก้ว ล้างจาน เพราะกลัวผู้ปกครองตำหนิ แต่เด็กมาค่ายทำได้ โดยผู้ใหญ่ไม่ต้องอุ้มชู เห็นเพื่อนทำเขาก็ทำได้ มีความเป็นผู้นำ กล้าแสดงออก เมื่อกลับไปเขาจะเป็นเด็กที่ดีของชุมชน ผลบวกก็จะเกิดกับชุมชน ชุมชนก็จะได้เด็กรุ่นใหม่ที่เติบโตขึ้นมา ชุมชนจะเข้มแข็งขึ้น เด็กก็จะมาร่วมพัฒนาชุมชนอีกด้วย ”

ไม่เพียงการเปิดโอกาสให้เด็กได้เรียนรู้โลกภายนอกเท่านั้น กิจกรรมค่ายในครั้งนี้ ยังเป็นครั้งแรกของการจัดกิจกรรมค่ายนอกสถานที่ของแกนนำชุมชน กลุ่มแม่บ้านทหารที่เสียสละเวลาของตนเองมาจัดกิจกรรมให้กับลูกหลานของกำลังพล เริ่มตั้งแต่การประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้ผู้ปกครองไว้วางใจส่งลูกเข้าร่วมกิจกรรม  การปฐมนิเทศเด็ก และการดูแลความเรียบร้อยของเด็กๆในระหว่างการเข้าค่าย ทำให้แกนนำได้มีโอกาสสัมผัสและเรียนรู้ไปพร้อมกับเด็กๆ  และเป็นแรงบันดาลใจให้กลับไปต่อยอดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมพัฒนาเด็กในชุมชนของตนอีกด้วย

พันโทหญิงสายรุ้ง ก้องสมุทร  ผู้บังคับหน่วยตรวจโรคที่ 8 ซึ่งตั้งอยู่ในชุมชน ร.1 พัน3 รอ. หนึ่งในกรรมการชุมชนทหารรักษาวัง “การที่เรามาเข้าค่ายเพิ่มทักษะชีวิตถือเป็นประสบการณ์ใหม่ของชุมชน ด้วยชุมชนลูกทหารปกติลูกพ่อก็ทำงานไป แม่ก็ทำงาน เด็กอยู่แต่ในบ้าน หรือได้ออกมาเล่นนิดๆหน่อยๆ การเปิดประสบการณ์ชีวิต ทักษะชีวิตออกมาข้างนอก เหมือนจะเป็นครั้งแรก ในความเป็นจริงถ้าเราออกสถานที่จริง ให้เขาได้เห็นจริงๆว่า ในชุมชนเขาทำอะไรบ้าง ข้อดีของชุมชน มีอะไร สิ่งที่เขาจะนำไปปรับเปลี่ยนกับชีวิต เป็นแค่ทัศนคติก็คิดว่า ได้ผลแล้ว เพราะมันเป็นสิ่งสำคัญ คิดว่าโครงการฝึกทักษะชีวิตของเด็กได้ผล ได้ผลในแง่ของเด็ก ได้เปิดประสบการณ์ ได้เห็นธรรมชาติ ได้เห็นว่าเขาไม่จำเป็นต้องอยู่กับสิ่งที่อำนวยความสะดวก อำนวยความสุข เช่น แอร์ พัดลม เยอะแยะเลย อยู่กับธรรมชาติก็มีความสุขแล้ว นี่คือการใช้ชีวิตของเด็ก  ในส่วนของกรรมการชุมชน นี่เป็นครั้งแรกเหมือนกัน การที่เรามาฝึกครั้งนี้ทำให้เรารู้แล้วว่าทริคในการที่จะดูแลหรือให้เด็กได้มีโอกาสช่วยเหลือตัวเอง มีอะไรบ้าง มีคำพูดอย่างไรที่จะจูงใจ หรือจะปรามอย่างไรให้เด็กไม่เสียความรู้สึก จะยออย่างไรให้เขามีกำลังใจขึ้น  หรือแม้แต่กิจกรรมที่ทำผ้ามัดย้อม สบู่ สามารถนำมาต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ของชุมชน สร้างรายได้ให้กับเด็กและครอบครัวได้ เป็นการเปิดประสบการณ์ให้กับเด็ก”

สุจิตต์ รุจิรมย์  หรือแม่ตุ๋ย หนึ่งในกรรมการชุมชนทหารรักษาวัง  “ก่อนมาค่ายได้มีการทำกิจกรรมกับเด็กในชุมชนก่อน เช่น ทำอาหาร ทำขนม มีกิจกรรมศิลปะหลายๆอย่าง โดยมีแม่ๆที่เป็นคณะทำงานของมูลนิธิฯ ก่อนหน้าเด็กไม่ค่อยรู้อะไรสักเท่าไหร่  เราก็ดีใจ ว่ามีการเปลี่ยนแปลงสำหรับเด็กกลุ่มนี้ เด็กกลุ่มนี้จะมีนิสัยก้าวร้าว ก่อนที่จะเข้ากิจกรรม จะมีก้าวร้าว ด่าทอ แล้วก็ไม่ค่อยจะเชื่อฟังพ่อแม่ แล้วพอวันนี้ที่เราได้มาพาเด็กมาเข้าค่ายต่างจังหวัด เขามีความสนใจเกี่ยวกับกิจกรรมที่ทำ  มีการมอบหมายให้เด็กโตที่เคยใช้ความรุนแรงกับน้อง  มาเป็นพี่เลี้ยงเพื่อจะได้ฝึกความรับผิดชอบ และเป็นแบบอย่างให้กับน้อง เขาก็ปรับตัว ทำได้ แม้จะยังไม่เต็มร้อย แต่ก็ดีกว่าเดิม”

น้องเนม  อายุ 19 ปี  หนึ่งในพี่เลี้ยงที่ต้องคอยดูแลน้องๆ  บอกเล่าถึงความรู้สึกของตนเองว่า “ มาเป็นพี่เลี้ยงเพราะอยากเป็นผู้นำเหมือนเขาบ้าง อยู่บ้านมีพี่น้องเราเป็นรุ่นน้องสุด ก็อยากจะทำให้ตัวเราดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้น  มีความรับผิดชอบมากขึ้น  เวลามาค่ายหรือมาทำกิจกรรมกับชุมชนจะต้องดูแลน้องๆช่วยกระตุ้นให้น้องมาทำกิจกรรม ให้น้องมีความรับผิดชอบมากขึ้น  และกิจกรรมที่หนูชอบและตั้งใจที่สุด คือ การทำขนม ได้เรียนรู้ทุกอย่าง  อยากทำขนมเอาไปขาย ทำกินได้  ชอบ”

น้องไท อายุ 10 ปี “ไม่เคยเข้ากิจกรรมแบบนี้ ชอบกิจกรรมผ้ามัดย้อม เพราะมันแปลกไม่เคยทำ ได้ความรู้ เอาไปใช้ในชีวิตได้ และความสนุก ปกติอยู่บ้านจะวาดรูป นอกจากนี้ชอบกิจกรรมนักสืบชายหาด ได้หาปู  ชอบเพราะได้ทำเป็นกลุ่ม”

น้องน้ำเพชร  อายุ 11 ปี  “รู้สึกดีใจมากที่มาร่วมกิจกรรม ได้ประสบการณ์กลับไปใช้ที่บ้านด้วยค่ะ ชอบกิจกรรมการทำผ้าย้อมสีธรรมชาติ เพราะว่าได้ทำลวดลายตามจินตนาการของตัวเอง ได้เรียนรู้การทำสบู่จากกลีเซอรีนใส ใส่น้ำผึ้ง มีเชอร์รี่ทำให้หน้าดูเปล่งปลั่ง  ได้ทำกิจกรรมร่วมกับเพื่อน ร้องเพลง กินข้าวด้วยกัน ได้รู้จักเพื่อนๆมากขึ้น ปกติไม่เคยได้ร่วมกิจกรรมแบบนี้ อยากมาอีก”  
แม้กิจกรรมค่ายพัฒนาทักษะชีวิตจะจบลง แต่แกนนำชุมชน และเด็กๆในชุมชนทหารรักษาวัง ยังคงต่อยอดกิจกรรมเพื่อค้นหาสิ่งดีๆที่มีอยู่ในตนเอง และอยู่ในชุมชน  เพื่อสร้างสรรค์ให้เกิดเป็น “พื้นที่ดีๆ” สำหรับเด็กและเยาวชนคนอื่นๆในชุมชนต่อไป

อัลบั้มภาพ

93