พอช่วงวันหยุดปิดเทอมของเด็กๆ  มาถึง พ่อแม่ต่างวุ่นกับการจัดหากิจกรรมให้ลูกทำ เพื่อไม่ให้ลูกว่างและเป็นการเสริมทักษะการเรียนรู้  พัฒนาการต่างๆ ให้กับเด็กๆ บ้างเน้นทางวิชาการ บ้างเน้นทางกีฬาแตกต่างกันออกไป

แต่สำหรับหลายๆ ครอบครัวที่ผู้ปกครองไม่มีเวลาและงบประมาณเพียงพอที่จะให้ลูกไปทำกิจกรรมใดๆ ก็มักจะปล่อยไว้กับญาติพี่น้อง คนข้างบ้าน   ถ้าเด็กสามารถดูแลตัวเองได้ก็จะปล่อยให้เด็กๆ อยู่บ้านกันตามลำพัง

การปล่อยลูกไว้ตามลำพัง นับเป็นการเสี่ยงต่ออันตรายมากมาย โดยเฉพาะอันตรายจากบุคคล ซึ่งเป็นบ่อเกิดของการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็ก

แม้พ่อแม่จะไม่ค่อยมีเวลาให้กับลูก ก็ควรจะมีการสอนให้เด็กรู้จักป้องกันตนเองในระดับหนึ่ง เพื่อให้สามารถหลีกเลี่ยงจากสถานการณ์เสี่ยงและอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้  ตัวอย่างเช่น

  1. ก่อนจะไปที่ใดควรให้ผู้ใหญ่รับรู้ว่าจะไปไหน กับใคร อย่างไร และจะกลับเมื่อไรและอย่าเปลี่ยนจุดหมายโดยไม่แจ้งผู้ใหญ่ก่อน
  2. ควรมีเพื่อนไปไหนด้วยเพื่อความปลอดภัย
  3. อย่าใจอ่อน ไว้ใจ เชื่อหรือรับของจากคนแปลกหน้าหรือคนที่ไม่น่าไว้ใจ แม้คนผู้นั้นจะแสดงท่าทางเป็นมิตรก็ตาม
  4. เมื่อมีคนมาแตะต้องตัว ถ้าเด็กไม่ชอบสัมผัสนั้นก็ไม่ควรยินยอม ต้องออกปากห้ามและเล่าให้ผู้ใหญ่ที่ไว้ใจรับทราบ
  5. เมื่อเกิดปัญหาให้รีบบอกผู้ใหญ่ที่ไว้ใจ แม้ในครั้งแรกผู้ใหญ่อาจไม่ฟังหรือไม่เชื่อต้องพยายามจนกว่าผู้ใหญ่จะรับฟังและช่วยเหลือ หรือบอกผู้ใหญ่คนอื่นที่เราคิดว่าจะช่วยเราได้

สำหรับพ่อแม่เอง ก็สามารถช่วยป้องกันเด็กๆ จากอันตรายได้ เช่น

  1. พ่อแม่ควรจะทราบอยู่เสมอว่าขณะนี้ลูกกำลังอยู่กับใคร ที่ไหน และกำลังทำอะไรอยู่
  2. ให้เวลาลูก ตั้งใจฟังทุกเรื่องที่ลูกเล่า ชวนให้ลูกเล่าเรื่องต่างๆ ปรึกษาปัญหากับพ่อแม่เสมอๆ เพื่อที่ลูกจะได้ไม่มีความลับต่อพ่อแม่
  3. พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับการล่วงเกินทางเพศกับลูกบ้างและสอนให้ลูกรู้จักการระวังป้องกันตัวเอง

สิ่งสำคัญที่สุด คือ ความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัว มีการสื่อสารต่อกันในทุกเรื่อง และ พ่อแม่มีเวลาให้กับลูกเพียงพอกับความต้องการ เมื่อลูกมีปัญหาสามารถปรึกษากับพ่อแม่ได้ สิ่งเหล่านี้นับเป็นวัคซีน เกราะป้องกันอันตรายจากสิ่งต่างๆ ได้เป็นอย่างดี

107