สถานการณ์สิทธิเด็กจากปี พ.ศ. 2532 ถึงปี 2558 และคาดว่าจะดีขึ้นในปี พ.ศ. 2573
โดย นายสรรพสิทธิ์ คุมพ์ประพันธ์
ประธานมูลนิธิศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็ก
เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน ปี 2532 เป็นวันที่ประชาคมโลกให้การรับรองว่าสิทธิเด็ก เป็นสิทธิเฉพาะด้านที่แยกออกมาจากกติกาสากลว่าด้วยสิทธิด้านเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม (ICESCR) ซึ่งรวมเอาทุก ๆ ด้านของสิทธิมนุษยชนเอาไว้ ก่อนปี พ.ศ. 2532 ในทางกฎหมายเด็กยังเป็นเพียงทรัพย์สินของพ่อแม่ ทั้งนี้อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กได้กระตุ้นให้เกิดการคุ้มครองเด็ก แต่เป็นเพียงการแยกเด็กผู้ถูกละเมิดสิทธิและการฟ้องลงโทษผู้กระทำเท่านั้น หลังจากปี 2532 อีกหลายปี ที่บรรดารัฐภาคีได้เรียนรู้ว่าพวกเขาจำเป็นต้องสร้างระบบคุ้มครองเด็กที่ประกอบด้วยตัวบทกฎหมาย ทั้งระดับชาติ ระดับท้องถิ่น รวมทั้งระเบียบข้อบังคับต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องซึ่งจะกำหนดโครงสร้างในการใช้บังคับกฎหมาย ระบบ กลไก บทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบของหน่วยงานและผู้ให้บริการ ดังที่ระบุไว้ในข้อชี้แนะทั่วไปของคณะกรรมการสิทธิเด็ก หมายเลข 13 ถึงกระนั้นก็ตามการปฏิบัติตามพันธกรณีของอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก ยังไม่ครอบคลุมในทั่วทุกด้าน
ตามหลักของอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก รัฐจะต้องสร้างหลักประกันเพื่อให้เด็กได้รับสิทธิอย่างเต็มที่ ด้วยการประเมินสภาวะของเด็ก สังคมแวดล้อมของเด็กและความต้องการจำเป็น(ที่จะรับบริการ)ของพวกเขา โดยการทำงานร่วมกันของกลุ่มสหวิชาชีพ ผู้บริหารท้องถิ่น ชุมชน โรงเรียน โดยเฉพาะครอบครัวเพื่อให้เด็กได้รับประโยชน์สูงสุด กล่าวคือสามารถเติบโตในสังคมแวดล้อมที่ปกป้องให้พวกเขาปลอดภัยและรับการพัฒนาอย่างมีคุณภาพ
สำหรับสังคมแวดล้อมของเด็กในวงกว้าง สถานการณ์ในระดับชาติ ภูมิภาค และระดับโลกยังคงไม่เป็นมิตรและอันตรายต่อเด็ก ๆ มากขึ้น เช่น เด็กย้ายถิ่นฐานและเด็กผู้ลี้ภัยซึ่งมีความเสี่ยงต่อการถูกนำไปค้าและแสวงประโยชน์ เด็กที่อยู่ท่ามกลางภัยพิบัติ เด็กที่อยู่ในความขัดแย้งทางอาวุธ และเด็กยากจน เป็นกลุ่มซึ่งมีแนวโน้มจะตกอยู่ในสภาวะยากลำบาก ขาดการศึกษา หิวโหย เจ็บป่วย บาดเจ็บ ทุพพลภาพ หรือเสียชีวิต สถานการณ์ที่กล่าวมาทั้งหมดควรจะได้รับการเอาใจใส่จากสหประชาชาติเพิ่มขึ้น เราจึงเรียกร้องให้เลขาธิการสหประชาชาติบรรจุวาระเด็กในการประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติอีกครั้งหนึ่ง เพื่อวางแผนกำหนดมาตรการในการปกป้อง เคารพสิทธิ เยียวยา และป้องกันเด็กจากความรุนแรงด้วยประการทั้งปวง ทั้งในระดับชาติ ภูมิภาค และในระดับสากล
ในปีพ.ศ. 2573 เด็กทุกคนในโลกนี้ควรจะปลอดพ้นจากความรุนแรงด้วยประการทั้งปวง ไม่ว่าในระดับชาติ ภูมิภาค และในระดับระหว่างประเทศ และสามารถเติบโตในสภาพแวดล้อมทางครอบครัวในบรรยากาศที่มีความผาสุก ความรัก และความเข้าใจ ดังคำปรารภของอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก ได้กล่าวเอาไว้